เดี๋ยวพ่อมา

เสียงวิทยุข้างกระท่อมมุงคาหลังเล็ก
ประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง
น้ำจะท่วมอย่างฉับพลันเนื่องจากฝนตกหนัก
เพราะดีเปรสชั่นลูกใหม่ที่ผ่านมาทางภาคเหนือ

จันทรกอดลูกสาววัยสองขวบแน่น
แขนอีกข้างหนึ่งโอบลูกชายสี่ขวบกระชับ
พ่อเด็กๆ เอาสามล้อออกไปตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ยังไม่กลับ
น่าจะรู้ว่าลูกสาวคนเล็กตัวร้อนและต้องการยา

เสียงวิทยุจากบ้านหลังใหญ่บนเนินดิน
ยังบอกดินฟ้าอากาศที่ปรวนแปรต่อไป
โดยที่ฝนตกหนักมาแต่เมื่อวานและพรำอยู่ทั้งคืน
พอบ่ายวันนี้ก็มีลมกระโชกแรงซ้ำอีก
ยาแก้ตัวร้อนมื้อสุดท้ายของเอื้อยกินเมื่อตอนสาย
มันคงจะหมดฤทธิ์แล้วร่างน้อยๆ ในอ้อมแขนจึงอุ่นจัดขึ้นมาอีก
จันทรอุ้มลูกฝ่าฝนออกไปหาหมอก็พอได้โดยเอาผ้าพลาสติกคลุมไป
แต่เงินล่ะ เงินค่ารถ แล้วยังเงินค่ายา จะเอาที่ไหนมาให้หมอ
ในเมื่อทั้งบ้านมีเงินเหลืออยู่อีกเพียงสองบาท สองบาทสุดท้าย

“แม่ อ้ายไปตามพ่อให้เอาไหม”
ลูกชายวัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นน้องตัวสั่นเทา

“อย่าไปเลยลูก ทั้งฝนทั้งลม แล้วจะไปตามที่ไหน พ่อจอดรถอยู่ตลาดโน่น”

“อ้ายจะไปที่ถนนใหญ่ โบกรถ แล้วบอกว่าจะไปตามพ่อ”

“อย่าเลยลูก เดี๋ยวพ่อคงมา คอยอีกสักประเดี๋ยว”

จันทรค่อยๆ วางลูกลงบนที่นอนเก่าๆ ที่มีอยู่ผืนเดียว
แล้วคลี่ผ้าห่มให้อย่างเบามือ รีบติดไฟต้มข้าว ให้อ้ายเฝ้าน้องไว้
เพิ่งห้าโมงเย็นแต่ก็มืดราวกับค่ำแล้ว
ข้าวต้มสุก ไข่เค็มเหลือลูกเดียวผ่าสี่แบ่งคนละซีก
อีกซีกหนึ่งเอาไว้ให้พ่อ เดี๋ยวพ่อก็กลับ

ฝนยังลงเม็ดหนัก
สามล้อที่แวะซื้อขาหมูต้มเค็มใส่ถุงพลาสติก
กับยาแก้ไข้สำหรับเด็กจากร้านขายยา
ออกแรงปั่นเลี้ยวตรงสี่แยกเพื่อรีบกลับไปหาลูกเมีย
รถปิคอัพใหม่เอี่ยมคันหนึ่ง พุ่งปราดสวนทางมาราวกับติดไอพ่น
คนขับสามล้อหักหลบแต่ไม่พ้น ปิคอัพคันนั้นพุ่งเข้าชนเต็มแรง 

แล้วแหกไม้กั้นหลุมที่ขุดไว้ตรงมุมสี่แยกลงไป

สามล้อบิดเบี้ยว คนขี่เลือดเต็มตัว ตายสนิท
แต่มือยังจับแฮนด์ที่แขวนถุงขาหมูต้มเค็มไว้แน่น
ส่วนหน้ารถของรถปิคอัพกดสามล้อและคนขับไว้ก้นหลุม
ส่วนท้ายโด่งขึ้นมาบนถนน

กระท่อมมุงคายังคอยหัวหน้าครอบครัวอยู่จนดึกดื่น

“แม่จ๋า หนูหนาว”
เอื้อยบ่นอยู่กับอกแม่ จันทรก็เฝ้าแต่ปลอบลูก

“เดี๋ยวพ่อมาจ้ะ พ่อซื้อยามาให้เอื้อยด้วย”


นสพ.เขลางค์ 1 ธันวาคม 2527